วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่เคยไป ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ทริปนี้ เมืองไทย.คอม พาเพื่อนๆไปตามรอยอารยธรรมขอม ที่ปราสาทหินพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นศาสนาสถานทางพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่สำคัญปราสาทหินพิมายเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17 อีกทั้ง ยังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยมีความเชื่อกันว่า ปรางค์ประธานปราสาทหินพิมายเป็นต้นเค้าของปราสาทนครวัด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา
หลังจากที่เราได้ชำระค่าบัตรผ่านประตูเพื่อเข้าชมอุทยานปราสาทหินพิมายเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาตะลุยเข้าไปชมธรรมชาติที่งดงามจากฝีมือของมนุษย์ ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งลวดลายต่างๆที่มีอยู่ตามซุ้มประตู เสาหรือกำแพง ส่วนแรกที่เราเดินเข้ามาถึง คือ สะพานนาคราชจะมีประติมากรรมรูปสิงห์ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น เชื่อมกับบริเวณกำแพงแก้ว โดยสะพานนาคราชและกำแพงแก้วเป็นเสมือนประตูต้นทางที่มุ่งเข้าสู่ปรางค์ประธานซึ่งจะตรงกันพอดีเมื่อมองจากบริเวณกำแพงแก้ว เหนือกำแพงแก้วที่เป็นซุ้มประตู เราจะได้พบกับประติมากรรมของการแห่อย่างเห็นได้ชัดเจน ถัดเข้ามาจะเป็นเหมือนห้องโถงกว้างที่ไม่มีหลังคา ในบริเวณนี้เราจะพบกับภาษาเขมรที่จารึกอยู่บริเวณกำแพงประตู และใกล้ๆกันจะมีฝีมือการจารึกของจิตรกรน้อยใจร้ายชาวไทย
เมื่อเดินพ้นจากห้องโถง จะพบกับลานหญ้าขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณนี้ยังมีร่องรอยของบ่อน้ำอยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา ตรงกลางเป็นทางเดินเข้าพระปรางค์ประธาน บริเวณหน้าปรางค์ประธานเยื้องไปทางซ้ายสร้างด้วยศิลาแลง ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภายในปรางค์พบประติมากรรมหินทรายจำหลักเป็นรูปประติมากรรมฉลององค์ของ พระเจ้าชัยวรมันที่7 (จำลอง) ที่เรียกว่า ปรางค์พรหมทัต ก็เพื่อให้เข้ากับตำนานพื้นเมือง เรื่องท้าวพรหมทัตพระเจ้าแผ่นดินปรางค์หิน ทางด้านขวา สร้างด้วยหินทรายสีแดง เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือมีทับหลังสลักเป็นภาพเล่าเรื่องในมหากาพย์ โดยปรางค์องค์นี้เรียกว่า ปรางค์หินแดง ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่กลางลานภายในระเบียงคด เป็นศูนย์กลางของศาสนสถานแห่งนี้
ปรางค์ประธานสร้างด้วยหินทรายสีขาวทั้งองค์ ต่างจากซุ้มประตู(โคปุระ)และกำแพงชั้นในและชั้นนอกที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง เป็นหลัก มีหินทรายสีขาวเป็นส่วนประกอบบางส่วน องค์ปรางค์ตั้งอยู่บนฐานสูงสองชั้นสลักลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายประจำยาม ลายกลีบบัวอย่างสวยงาม ที่ส่วนยอดจำหลักเป็นรูปครุฑแบกทั้งสี่ทิศ เหนือขึ้นไปสลักเป็นรูปเทพประจำทิศต่าง ๆ และรูปดอกบัว นับเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่ต่างจากปราสาทหินที่พบทั่วไป
การเดินทาง 1. รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีแยกขวาเข้าทาง หลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ขับตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านห้าง The Mall ขับตรงไป จากนั้นจะพบป้ายบอกทางให้ไปขอนแก่น ให้ท่านเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทาง เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไป พบทาง แยกให้เลี้ยวขวาสู่ถนนมิตรภาพ ( ทางหลวงหมายเลข 2 ) จากนั้นขับตรงไป…มุ่งหน้าสู่อำเภอพิมาย ผ่านทางเข้า ปราสาทหินพนมวัน ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ ขับตรงต่อไปอีกจะผ่านทางเข้าแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท ขับตรงมา เป็นระยะทางประมาณ 51 กิโลเมตร พบแยกไฟแดง เลี้ยวขวาที่แยกนี้ เข้าสู่ถนนหมายเลข 206 จากนั้นขับตรงไป สู่อำเภอพิมาย จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือ 2. รถประจำทางจาก จากสถานีขนส่งหมอชิตโดยสารรถประจำทาง สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มีทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถปรับอากาศ ตลอด24 ชั่วโมง และต่อรถโดยสารประจำทางสาย นครราชสีมา-พิมาย-ชุมพวง ซึ่งมีรถถึง 4ทุ่ม ทุกวัน 3. รถไฟ จากสถานีหัวลำโพง โดยสารรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี หรือ สุรินทร์ ลงที่สถานีนครราชสีมา และต่อรถโดย สารประจำทางสาย นครราชสีมา-พิมาย-ชุมพวง 4. เครื่องบิน จากสนามบินดอนเมือง ไปลงที่สนามบิน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา และต่อรถโดยสารของสนามบิน เข้าตัวเมือง และต่อรถโดยสารประจำทางสาย นครราชสีมา-พิมาย-ชุมพวง

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบ้านเกิด ปราสาทหินเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น

ปราสาทหินเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น ปราสาทเปือยน้อย หรือ กู่เปือยน้อย หรือ พระธาตุกู่ทอง เป็นปราสาทหินศิลปะขอมหรือลพบุรี ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พบในจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงในอีสานตอนบนตั้งอยู่ที่อำเภอเปือยน้อย ซึ่งเป็นอำเภอที่แยกไปจากอำเภอบ้านไผ่ และเปือยน้อยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นประมาณ ๗๙ กิโลเมตร แต่หากไปจากกรุงเทพ ฯ จะถึงเส้นทางที่จะแยกไปเปือยน้อย ก่อนจะถึงตัวอำเภอเมืองขอนแก่นไปคราวนี้ได้พบปราสาทที่ได้รับการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “สวยสมใจ” ที่อยากมาชมเพราะเมื่อก่อนนั้นตั้งอยู่ในบริเวณวัดธาตุกู่ทอง ทางวัดดูแลรักษาอยู่ทับหลังหินทรายและศิลปะโบราณวัตถุที่สำคัญ ๆ เจ้าอาวาสจะเก็บรักษาเอาไว้ ต้องไปขอชมจากท่านแต่ปัจจุบันปราสาทหินเปือยน้อยได้รับการบูรณะอย่างดีเยี่ยม อยู่ในพื้นที่ที่มีบริเวณกว้างขวางเป็นสัดส่วนของปราสาทมีการถากถางหญ้าจนโล่งเตียนงดงาม ทำให้ปราสาทดูเด่นเป็นสง่างาม และแถมในตอนที่ผมไปคือต้นปี ๒๔๔๕ นี้ กรมศิลปากรยังไม่เก็บสตางค์ค่าเข้าชมปราสาท และควรเรียกเก็บอย่างยิ่งแต่การเก็บค่าเข้าชมโบราณสถาน หรือพิพิธภัณฑ์นั้นน่าจะเก็บเท่ากันไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างประเทศ แต่ควรจะลดราคาให้เฉพาะผู้สูงอายุ คือมีอายุสูงกว่า ๖๐ ปีขึ้นไป ไม่ใช่ผมอายุเกิน ๖๐ ปี แล้วมาเรียกร้อง เพราะอยากเห็นบ้านเราที่คำว่าด้อยพัฒนากำลังจะหายไปทำอะไรให้เป็นสากลเหมือนต่างชาติที่เขาเจริญแล้วบ้างก็จะดี หากออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ผ่านสระบุรี ไปสีคิ้วแล้วตัดเข้าถนนสาย ๒๐๑ จนไปผ่านชัยภูมิแล้วไปตามถนนเส้นเดิมคือ๒๐๑ ไปจนถึงอำเภอโคกโพธิ์ไชย จึงแยกขวาเข้าถนนสาย ๒๒๙ จะไปผ่านทางแยกซ้ายไปอำเภอมัญจาคีรีแต่เราแยกขวามาทางอำเภอชนบท ต่อไปยังอำเภอบ้านไผ่ที่เป็นชุมทางสำคัญ ที่วิ่งอุตริมาตามเส้นทางนี้ก็เพื่อจะได้ผ่านชัยภูมิผ่าน “ชนบท” ให้คุณหญิงทั้งหลายได้จับจ่ายผ้าไหมชนบทอันลือชื่อเสียให้เต็มที่เที่ยวกลับจะได้ไม่ต้องย้อนเข้ามาอีก และผ้าไหมชนบทในปัจจุบันมีชื่อเสียงมากจนทำให้อำเภอชนบทเจริญรุ่งตามไปด้วย อีกเส้นทางหนึ่ง คือมาจากสระบุรี แล้วเกาะถนนสาย ๒ เรื่อยไป (เดี๋ยวนี้มีเส้นทางเลี่ยงเมืองก่อนเข้าโคราชแล้ว) เกาะสาย ๒ จะไปผ่านอำเภอพล ต่อไปอีกคืออำเภอบ้านไผ่ ระยะทางใกล้กว่าเล็กน้อยแต่หากไปเส้นอ้อมโลกของผมผ่านจุดท่องเที่ยวหลายจุด ถนนดีทุกสาย เมื่อถึงอำเภอบ้านไผ่แล้ว ก่อนจะถึงสี่แยกบ้านไผ่ (หมายถึงมาจากกรุงเทพ ฯ ตามถนนสาย๒ จะพบว่ามีถนนแยกขวา (หากมาจากชนบทต้องมาเลี้ยวขวาเสียก่อนแล้วจะพบถนนแยกซ้ายกลับทางกัน)ให้เลี้ยวขวาตรงนี้ ป้ายบอกว่าไปมหาสารคาม วิ่งตรงไปจนผ่านตลาดบ้านไผ่ จนพบสี่แยกให้เลี้ยวขวาตรงโรงพยาบาลเข้าถนนสาย ๒๓ ป้ายบอกไปบรบือ วิ่งไป ๑๑ กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนสาย ๒๓๐๑ ไปอีกประมาณ ๘ กิโลเมตรจึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย ๒๒๙๗ อีก ๑๕ กิโลเมตร จะพบปราสาทเปือยน้อยอยู่ทางขวามือ ส่วนทางซ้ายมือคือสวนสาธารณะ สระวงค์ ตอนแยกจากสาย ๒๓ มาจนถึง กิโลเมตร ๑๔ มีวัดบ้านลาน มีจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ควรแก่การแวะเข้าชม อำเภอเปือยน้อยเป็นอำเภอเล็ก ประเภทมีตลาดเช้า สายหยุด คือแม่ค้าหยุดขายกลับบ้านหมดมีร้านค้าไม่กี่แถว ร้านอาหารที่หวังว่าจะไปชิมเป็นมื้อเที่ยงแล้วเอามาเล่าให้ฟังนั้นขั้นชวนชิมหาไม่ได้เลย มีแต่ร้านพอกินแก้หิวแต่รสชาติพอใช้ได้ ไม่ถึงกับเหมือนเอาปากชนหินเรียกว่าพออร่อยหากเราช่วยเขาปรุง คำขวัญ ของเปือยน้อย เขาบอกว่า “เมืองปราสาทหิน ถิ่นกำเนิดผูกเสี่ยว เที่ยวงานบุญกู่เชิดชูวัฒนธรรม” ดังนั้นเมื่อบูรณะปราสาทหินแล้ว เขาก็เริ่มมีงาน จะมีในขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ เช่นในปี ๒๕๔๕ จะมีในวันที่ ๒๘ – ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๕ ปี ๒๕๔๖ จะมีวันใดก็เปิดดูปฏิทินดูเรียกว่างาน “ศิวะ ราตรี” หรือ “กินข้าวแลง การแสดงโปงลาง” ปีที่ผ่านมานี้ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปหากปี ๒๕๔๖ อาจจะได้ไปและต้องหาทางพักใกล้ ๆ เปือยน้อยเช่นที่ บ้านไผ่ ชาวบ้านเรียกปราสาทหินว่า “ธาตุกู่ทอง” องค์ปราสาทหันหน้าสู่ทิศตะวันออก สร้างด้วยหินทรายจำหลักลายสวยงาม มีกำแพงขนาดใหญ่ล้อมรอบเป็นเขตปราสาท สร้างด้วยศิลาแลง องค์ปราสาทได้รับการบูรณะเป็นอย่างดีทับหลังหินทราย ได้นำมาติดตั้งไว้ที่เดิมอย่างเรียบร้อย หน้าบันฯ ก็น่าชมผมบรรยายโบราณวัตถุไม่ถูกว่าอะไรงามอย่างไรบอกได้คำเดียวว่างดงาม คุ้มค่าต่อการไปชมและภูมิใจในความเป็นไทยที่แม้ว่าชนชาติไทยไม่ได้สร้างไว้ขอมสร้างไว้ แต่เราก็สามารถรักษาและบูรณะ ให้คงความงดงามดั้งเดิมไว้ได้ ชาติที่สร้างขึ้นนั้นเคยเจริญรุ่งเรืองแต่รักษาชาติไว้ไม่ได้ต้องสิ้นชาติสิ้นเผ่าพันธุ์ คนเขมรทุกวันนี้ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ขอม เหมือนคนอิตาลีไม่ใช่โรมันคนอิยิปต์ปัจจุบันไม่ใช่คนเผ่าเดียวกับพระนางคลีโอพัตรา เพราะสิ้นชาติกันไปหมดแล้ว ออกจากโรงแรมโซฟีเทล จะมาตามถนนสายที่ผ่านถนนที่แยกเข้าตลาดสด เรียกถนนสายนี้ว่าถนนหน้าเมืองหามาจากถนนสาย ๒ เลย พอเลี้ยวขวาเข้าขอนแก่น (ตามป้าย) จะตรงมาเรื่อยจนผ่านหลักเมืองมาผ่านโรงแรมโฆษะ โรงแรมเจริญธานีปริ๊นเซส แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายนี้ชื่อหน้าเมืองวิ่งเรื่อยมาจะผ่านธนาคารกรุงเทพฯ ทางขวามือ เยื้อง ๆ กัน ยามเช้าจะมีรถเข็นคันแรกขายหมูปิ้งปีกไก่ปิ้ง เครื่องในไก่ปิ้ง ปลาดุกย่าง หมูส้ม ข้าวนึ่งร้อน ๆ ในกระติ๊บ ถนนหน้าเมือง สายที่มีธนาคารกรุงเทพฯ ร้านรถเข็นหมูปิ้ง เยื้องธนาคารกรุงเทพฯเลยไปทางฝั่งขวาคือโรงแรมมายเฮาส์ อยู่ที่ปากซอยหน้าเมือง ๑๑ ร้านตะเกียงอยู่ปากซอยนี้เลยไปอีกปากซอยกสิกรสำราญ รถเข็นกาแฟ ไข่กะทะ ขนมปังอบไส้หมูยอ และกุนเชียงถูก อร่อย